ตกงานนาน ยังหางานไม่ได้ ชีวิตเคว้งจนเกิดอาการเครียด สามารถหาทางออกได้อย่างไร

ตกงานนาน ยังหางานไม่ได้ ชีวิตเคว้งจนเกิดอาการเครียด สามารถหาทางออกได้อย่างไร

เชื่อว่าเมื่อเราเติบโตขึ้นจนถึงวัยทำงานแล้ว เรื่องเครียดเรื่องวิตกกังวลในชีวิตก็จะมีมากขึ้นด้วย เด็กจบใหม่ที่เริ่มทยอยหางานทำหลาย ๆ คนก็ได้ทำงานที่ตนเองชื่นชอบและเรียนมา แต่อีกหลาย ๆ คนผ่านไปเดือนแล้วเดือนเล่าก็ยังไม่มีที่ไหนตอบรับเข้าทำงาน หรือแม้แต่คนที่มีประสบการณ์การทำงานมายาวนานที่เมื่อเกิดวิกฤตตกงานหรือต้องเปลี่ยนงานกะทันหันโดยที่ยังไม่มีงานใหม่รองรับ จากที่เคยทำงานได้เงินเดือนหลายหมื่นรายได้กลับต้องหยุดชะงักแต่รายจ่ายก็ยังมีเท่าเดิม ไหนจะค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าส่งเสียลูกไปโรงเรียน และยิ่งอยู่ในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้ก็ยิ่งหางานยากขึ้นไปใหญ่ จากคนเคยทำงานเคยมีรายได้ พออยู่บ้านว่าง ๆ นาน ๆ เข้าก็เกิดความเครียด และหลาย ๆ คนอาจจะถึงขั้นผิดหวังกับชีวิตไปเลย ซึ่งเราก็สามารถหาทางออกในการจัดการเรื่องเครียดเหล่านี้ได้โดยขึ้นอยู่กับปัจจัยที่เรามี ซึ่งจะมีวิธีไหนบ้างนั้นเราไปติตตามกันได้เลย

 

1.หาอาชีพเสริมหรือรับจ็อบชั่วคราวระหว่างรองาน

แม้ตอนนี้เราจะยังไม่ได้งานที่คาดหวังไว้ แต่เราก็สามารถหารายได้จากช่องทางอื่นทดแทนได้ หากเรามีอาชีพเสริมที่เคยทำ มีทักษะในงานบางประเภทเราก็สามารถทำไปพลาง ๆ ได้ ยกตัวอย่างเช่น ขายของมือสอง รับทำงานกราฟิก รับงานสอนหนังสือ รับงานแปลภาษา เป็นต้น หรือแม้แต่การทำงานพาร์ททามตามร้านสะดวกซื้อก็ถือเป็นอีกงานหนึ่งที่คนทั่วไปนิยมทำระหว่างรองานที่ตนสมัครไปเรียก นอกจากจะทำให้เราไม่ว่างและหยุดฟุ้งซ่านได้แล้ว ก็สามารถทำให้เรามีรายได้อีกด้วย แม้จะเป็นงานที่ไม่ทำให้เราได้เงินเยอะนัก แต่ก็ดีกว่าอยู่ว่าง ๆ ใช้เงินเพียงอย่างเดียว ไม่แน่หากเป็นงานที่ทำรายได้ได้ดีเราก็สามารถทำต่อไปได้ยาว ๆ เลย

 

2.ออกไปท่องเที่ยวพักผ่อน

สำหรับใครที่ไม่มีปัญหาเรื่องเงินหรือค่าใช้จ่ายมากนัก ยังมีเงินเก็บอยู่พอสมควร การออกไปท่องเที่ยวพักผ่อนร่างกายและจิตใจก็ถือว่าช่วยลดความเครียดจากการอยู่บ้านว่าง ๆ ได้ดีพอสมควร เพราะถ้าหากเราเป็นคนหนึ่งที่ตลอดชีวิตที่ผ่านมาทุ่มเทไปกับงานพอสมควรแล้ว การได้มีเวลาหยุดพักผ่อนเพื่อทบทวนสิ่งต่าง ๆ ก็ถือว่าเป็นโอกาสดีอย่างยิ่ง และเมื่อเราชาร์จแบตจนเต็มที่แล้ว เราก็จะมีเรี่ยวแรงในการทำงานที่มากขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นการให้เวลาตัวเองได้พักผ่อนบ้างก็ไม่ใช่เรื่องที่เลวร้ายเสมอไป

 

3.ใช้เวลาไปกับการเพิ่มพูนทักษะต่าง ๆ

การทำงานไม่ตรงสายที่เรียนหรือการเปลี่ยนสายงานย่อมเกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติของคนเราทุกคน เวลานี้จึงถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะใช้มันเพิ่มพูนทักษะในสายงานเราให้เก่งขึ้น หรือคนที่อยากเปลี่ยนสายงานก็สามารถใช้เวลาเรียนรู้และฝึกหัดได้ โดยเราอาจรับงานมาลองทำหรือออกไปเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ได้ถ้าหากเรามีคอนเนคชั่นอยู่แล้ว เพราะถ้าหากเรายังทำงานที่เดิมอยู่ก็อาจจะไม่มีเวลาว่างในการฝึกฝนทักษะเหล่านี้เพิ่มได้

 

4.ใช้เวลาว่างไปกับสิ่งที่ชอบ

เชื่อว่างานที่หลาย ๆ คนเคยทำก่อนตกงานหรือออกจากงานนั้นไม่ใช่งานที่ตนเองชื่นชอบ แต่เมื่อถึงเวลานี้ที่เราได้มีเวลาว่างในการทำสิ่งที่ชอบแล้วก็จงใช้มันให้คุ้มค่าซะ แม้สิ่งเหล่านั้นจะอยู่รอบ ๆ ตัวเราก็ตามไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือที่ซื้อมาแล้วยังไม่เคยอ่าน การดูหนังดูซีรีส์ที่ชอบแต่ไม่เคยดูจบเพราะกลับจากทำงานทีไรก็สลบทุกที การออกกำลังกายเข้าฟิตเนสเพื่อฟิตหุ่นก่อนเริ่มงานใหม่ หรือแม้แต่การหางานอดิเรกต่าง ๆ ทำก็จะช่วยให้เราลดความเครียดลงได้ ระหว่างนั้นเราก็หางานไปเรื่อย ๆ หรือพอมีคนรู้จักก็ติดต่อหางานทำเพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องอยู่ว่าง ๆ โดยเราสามารถตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ ในแต่ละวันได้ เช่น ภายใน 3 วันจะต้องอ่านหนังสือเล่มนี้ให้จบ และเมื่อเราบรรลุเป้าหมายนี้ได้ก็จะทำให้เรามองเห็นคุณค่าในตัวเองมากขึ้น

 

ทุกคนย่อมเคยผ่านช่วงเวลาที่ต้องแข่งขันหางานกับคนอื่น การรอคอยโทรศัพท์เพื่อที่จะได้ไปสัมภาษณ์งาน แม้ช่วงเวลาเหล่านั้นจะยาวนานเป็นเดือนเป็นปีจนทำให้เราท้อเราเครียด แต่เราก็สามารถจัดการกับความท้อความเครียดเหล่านั้นได้ดังเช่น 4 วิธีที่ได้กล่าวมา และให้เราจดจำไว้เสมอว่าถนนบนโลกนี้ไม่ได้มีเพียงเส้นเดียว

ติดตามและไม่พลาดทุกการเคลื่อนไหวของ สาวสวย